การศึกษา วิธีป้องกัน HIV เป็นสิ่งสำคัญ

การศึกษา วิธีป้องกัน HIV เป็นสิ่งสำคัญ

คนจำนวนมากยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับ วิธีป้องกัน HIV ที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 15-30 ปี ยังมีความกังวลว่า ตัวเองมีความเสี่ยงต่อเชื้อเอชไอวี หรือไม่ ยิ่งกรณีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้สวมถุงยางอนามัยป้องกัน โอกาสที่จะติดเชื้อก็มีมากขึ้นหากไม่เรียนรู้วิธีป้องกันเอชไอวี ไว้ติดตัวบ้าง และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คุณควรศึกษา เพื่อช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและห่างไกลจากโรคร้ายได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ วิธีป้องกัน HIV

วิธีป้องกันเอชไอวี คือ คุณต้องรู้ว่าเชื้อนี้ติดต่ออย่างไร และถึงแม้ว่าคุณรู้จัก หรืออาศัยอยู่ร่วมกับผู้ติดเชื้อเอชไอวี คุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการรับเชื้อไวรัสผ่านช่องทางเหล่านี้เลย ได้แก่

  • การสัมผัส การจับมือ การโอบกอด การจูบแบบปิดปาก
  • การใช้ห้องน้ำเดียวกัน
  • การดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน การรับประทานอาหารร่วมกัน

แม้ว่าเชื้อเอชไอวีจะแพร่กระจายผ่านทางเลือด และสารคัดหลั่งในร่างกาย เช่น น้ำอสุจิ แต่สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับน้ำลาย คุณไม่สามารถติดเชื้อเอชไอวีได้ หากคุณรับประทานอาหารที่ปรุงโดยคนที่ติดเชื้อเอชไอวี แม้ว่าเลือดที่ติดเชื้อเอชไอวีจะปนอยู่ในอาหารในปริมาณเล็กน้อย ไวรัสก็ไม่สามารถอยู่รอดได้นานภายนอกร่างกาย และกรดในกระเพาะอาหารของมนุษย์จะทำลายมันไปจนหมดสิ้น

แต่จะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ใช้แปรงสีฟัน มีดโกนหนวด กรรไกรตัดเล็บอันเดียวกัน หรือรับประทานอาหารที่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีเคี้ยวไปแล้ว แม้ในกรณีจะพบยากมาก แต่ก็มีรายงานการติดเชื้อเกี่ยวกับการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกันนี้ เนื่องจาก หากมีเลือดอยู่ มันสามารถเข้าสู่ร่างกายของคุณได้หากมีบาดแผลเปิด

เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย วิธีป้องกัน HIV

ถุงยางอนามัย เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อเอชไอวี เนื่องจากสารคัดหลั่งไม่สามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้ แต่คุณเองจะต้องใช้ถุงยางอนามัยให้ถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เลือกชนิดของถุงยางอนามัยเป็นแบบลาเท็กซ์จะช่วยป้องกันได้ดีแต่หากคุณมีอาการแพ้ถุงยางอนามัยชนิดนี้ ให้เปลี่ยนไปเลือกใช้ชนิดโพลียูรีเทน หรือยางสังเคราะห์ แต่ไม่ควรเลือกถุงยางอนามัยที่ทำจากเยื่อธรรมชาติ เพราะพวกมันมีรูเล็กๆ ดังนั้น จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อเอชไอวีได้

การใช้สารหล่อลื่นที่เป็นน้ำ หรือซิลิโคน เพื่อลดโอกาสที่ถุงยางอนามัยจะแตกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ อย่าใช้สารหล่อลื่นที่เป็นน้ำมัน เช่น วาสลีน น้ำมัน หรือครีมนวด สารเหล่านี้สามารถทำให้ถุงยางอนามัยบางลง และทำให้มีโอกาสแตกมากขึ้น

สำหรับการทำรักทางปากนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ที่คุณจะติดเชื้อเอชไอวีจากการให้ออรัลเซ็กซ์กับคู่ของคุณ เว้นแต่ว่าคุณมีแผลเปิดในช่องปาก เช่น แผลในปาก หรือมีเลือดออกตามไรฟัน แต่เพื่อความปลอดภัย ควรให้คู่นอนของคุณใช้ถุงยางอนามัย หรือแผ่นยางอนามัย ซึ่งเป็นแผ่นยางหรือซิลิโคน ทรงสี่เหลี่ยมบางๆ ที่ใส่ไว้เหนือปากช่องคลอด หรือทวารหนักเมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์ทางปาก

วิธีป้องกัน HIV คือไม่ใช้ยาเสพติด

คุณจะมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี หากคุณใช้เข็มฉีดยา หรือกระบอกเสพยาร่วมกับผู้อื่น สิ่งที่ควรทำอย่างปลอดภัยที่สุด คือ การไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ใช้เข็มใหม่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วเท่านั้น ร้านขายยาบางแห่งขายเข็มฉีดยาได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา หากคุณไม่สามารถหาเข็มใหม่ได้ คุณสามารถทำความสะอาดเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วด้วยสารฆ่าเชื้อ แต่คุณก็ยังมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีจากเข็มฉีดยาเหล่านั้นได้ แม้ว่ายาเสพติดจะผิดกฎหมาย และเป็นอันตรายที่สุด แต่ก็มีหลายคนที่มีการใช้ยาเพื่อการสันทนาการทุกประเภท มันยิ่งสามารถเพิ่มความเสี่ยงของคุณได้ เพราะมันลดระดับความยับยั้งชั่งใจของคุณ และทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่คุณจะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อเอชไอวี หากคุณใช้ยาเสพติด ก็ควรพกถุงยางอนามัยเสมอด้วย

ป้องกัน HIV ด้วย PrEP

หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีมากขึ้น คุณอาจใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรือมีความสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อเอชไอวี หากคู่นอนของคุณกินยาต้านไวรัสเอชไอวี และอยู่ในสภาวะ U=U แพทย์อาจไม่จ่ายยาเพร็พให้คุณ เพราะคนที่มีเชื้อเอชไอวีแต่ทานยาดี ไปพบแพทย์ตลอดแทบจะไม่ส่งต่อเชื้อให้กับคู่นอนได้เลย แต่อาจมีความเสี่ยงหากพวกเขาไม่กินยาอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่รู้ว่าปริมาณไวรัสของพวกเขามีมากน้อยแค่ไหน

คุณสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการกินยาทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ เรียกว่าการป้องกันก่อนสัมผัส หรือ PrEP มีตัวยาเพียงไม่กี่ตัวเลือกประกอบด้วยยา 2 ชนิด ได้แก่ Emtricitabine และ Tenofovir ยาเหล่านี้ก็คือ ยาต้านรีโทรไวรัส ที่ใช้ในการรักษาเอชไอวี แต่นำมาใช้ป้องกันก่อนมีความเสี่ยง ซึ่งเมื่อร่างกายพบเชื้อไวรัสเอชไอวี ฤทธิ์ยาในกระแสเลือดจะไม่ทำให้ไวรัสจับตัวกันเป็นกลุ่มและแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของคุณ

หากคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับผู้ที่มีเชื้อเอชไอวี โอกาสในการติดเชื้อเอชไอวีจะลดลงประมาณ 95% หากคุณรับประทานยา PrEP ทุกวัน ตรงต่อเวลา ไม่ขาดยา รวมทั้งต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เพราะ PrEP ไม่สามารถป้องกันโรคอื่นได้นอกจากไวรัสเอชไอวี หากคุณต้องการใช้ยา PrEP ให้ทำการปรึกษาแพทย์ของคุณ คุณต้องมีการตรวจเอชไอวีก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่มีไวรัสอยู่ในร่างกาย และคุณจะต้องได้รับการตรวจเลือดทุกๆ 3 เดือน ในขณะที่ใช้ยานี้ เพื่อติดตามผลว่าสามารถป้องกันได้เสมอหรือไม่

จะเป็นอย่างไรเมื่อคุณได้รับเชื้อ HIV

  • ผู้ติดเชื้อเอชไอวีจำนวนมากจะไม่มีอาการใดๆ ในตอนแรก แต่จะค่อยๆ ปรากฏลักษณะอาการที่แตกต่างกัน แม้ว่าจะไม่เหมือนกันสำหรับทุกคน อาการของโรคสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ คือ
  • ระยะเฉียบพลันของเชื้อเอชไอวี (2-4 สัปดาห์แรก)
  • ระยะเรื้อรังของเชื้อเอชไอวี (ระยะกลาง ซึ่งอาจอยู่ได้นานเป็นเดือน เป็นปี โดยไม่แสดงอาการใดๆ เลย แม้ว่าภูมิคุ้มกันจะเสื่อมลงในระยะนี้)
  • และระยะสุดท้าย (โรคเอดส์) การตรวจพบและการรักษาแต่เนิ่นๆ สามารถป้องกันการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นได้

อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มเติม

เพศสัมพันธ์แบบไหนปลอดภัยสุด!

ทำอย่างไร? หากถุงยางแตกขณะมีเพศสัมพันธ์

จะเห็นได้ว่า การศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันเอชไอวีเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากการติดเชื้อที่ไม่รู้ตัว และไม่ได้รับการรักษาอาจมีการดำเนินของเชื้อเข้าสู่ภาวะโรคเอดส์ ก่อให้เกิดการเสียชีวิตได้ในที่สุด การเน้นย้ำเกี่ยวกับวิธีป้องกันเอชไอวี และประเมินความเสี่ยง เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การใช้ยา PrEP และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยง จะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อ และส่งเสริมสุขภาพทางเพศ นอกจากนี้ การศึกษาเกี่ยวกับไวรัสเอชไอวียังช่วยลดความคิดที่อคติและการกีดกันกับคนที่มีเชื้อ เพิ่มความตระหนักและเข้าใจเกี่ยวกับเอดส์ เราสามารถส่งเสริมความเห็นใจ การยอมรับ และการสนับสนุนสำหรับผู้ที่มีเชื้อได้ครับ

Similar Posts